หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

บทความลงนิตยสาร Health Today กรกฎาคม 2557

วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับโฮมีโอพาธีย์ครับ
ในบทความนี้ผมเขียนขึ้นอยู่บนพื้นฐานที่ว่า
1.ร่างกายมีความสามารถในการรักษาซ่อมแซมตัวเองได้ (ไม่อย่างนั้นจะเริ่มต้นจากการปฏิสนธิแบ่งตัวจากเซลล์เซลล์เดียวให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเซลล์เป็นล้านตัวและทำงานสอดประสานกันได้ดีได้อย่างไรจริงไหมครับ) การเจ็บป่วยเกิดจากระบบซ่อมแซมตัวเองของร่างกายไม่ทำหน้าที่อย่างที่มันเคยทำ
2.สุขภาพดี กินความถึงความสมบูรณ์ของ กาย ใจ สังคม และ จิตวิญญาณ

ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าโฮมีโอพาธีย์ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน. การแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน. สมุนไพรไทย สมุนไพรจีน ฝังเข็ม โยคะ หรือการแพทย์อะไรอื่นๆอีก ก็ไม่ได้เหมาะกับคนทุกคน

คนแต่ละคนย่อมเหมาะกับการรักษาแต่ละแบบไม่เหมือนกัน. หากเราจะเอาการแพทย์ชนิดใดชนิดหนึ่งมารักษาคนทุกคนแล้วไซร้ก็ย่อมก่อให้เกิดปัญหาได้
การจะพิจารณาว่าคนใดคนหนึ่งเหมาะกับการแพทย์ชนิดใดนั้น ขึ้นกับว่าปัญหาหลักๆของคนคนนั้นอยู่ในระดับไหน และเลือกการแพทย์ที่จัดการกับระดับของปัญหานั้นได้ดีมาใช้ครับ
ระดับอะไร? คุณอาจสงสัย
คืออย่างนี้ครับ เราอาจแบ่งระดับของปัญหาของผู้ป่วยได้เป็น 4 ระดับด้วยกัน และในแต่ละระดับก็มีการแพทย์ที่เหมาะอยู่ 4 ระดับนั้นได้แก่
Structure
Molecule
Energy
Information

ปัญหาที่อยู่ในระดับ Structure หรือโครงสร้างนั้นจับต้องได้ง่ายครับ เอาตาดูก็เห็น ตาเปล่ายังไม่เห็นก็เอากล้องจุลทรรศน์ส่อง หรือไม่ก็เอามือคลำ เจาะเลือดก็เจอ. ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือการแพทย์แผนปัจจุบันครับ ถ้าคุณถูกรถชน ม้ามแตก ตกเลือดในช่องท้องแล้วละก็ ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยครับ คุณควรจะไปโรงพยาบาลแพทย์แผนปัจจุบัน ทำการผ่าตัดโดยด่วนเพื่อห้ามเลือด ความดันโลหิตตกก็ให้น้ำเกลือ เสียเลือดมากก็เติมเลือด. การแพทย์ในกลุ่มนี้ได้แก่แพทย์แผนปัจจุบัน เป็นต้น 

ปัญหาที่อยู่ระดับ Molecule หรือ โมเลกุลและสารอาหาร  หากเกิดภาวะขาดสารอาหาร ก็ต้องนำสารอาหารที่ขาดนั้นมาเสริมครับ. นอกจากสารอาหารแล้วการแพทย์ที่จัดอยู่ในระดับนี้ เช่น แมคโครไบโอติก โภชนบำบัด วิตามินบำบัด สมุนไพรไทย สมุนไพรจีน เป็นต้น ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เพราะทำงานในระดับของโมเลกุลและเซลล์ให้เกิดความสมดุลย์

ระดับ Energy หรือ พลังงาน. ยกตัวอย่างนะครับ เวลาที่คุณอยู่ในที่เย็นจัดๆ จนคุณรู้สึกหนาวยะเยือก เอายาอะไรมาให้กินก็ตาม ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาการหนาวของคุณได้หรอกครับ สิ่งที่จะช่วยคุณให้ผ่านความหนาวนั้นไปได้ก็คือ เสื้อผ้าที่เก็บความอุ่นของร่างกายคุณไม่ได้กระจายออกไปสู่สิ่งแวดล้อม ชาอุ่นๆสักแก้วช่วยเพิ่มอุณหภูมิในตัว ถุงน้ำร้อนสักอันเอามากอดไว้ในเสื้อ ก็จะช่วยให้คุณหายหนาวได้. ถ้าขาดซึ่งพลังงานก็ต้องเติมด้วยพลังงานครับ. ในร่างกายยังมีพลังงานที่ถ้าไม่สังเกตดีจะไม่เห็น ที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า subtle energy. การแพทย์ปัจจุบันทำการวัดพลังงานไฟฟ้าจากหัวใจมาเขียนเป็นคลื่นไฟฟ้าหัวใจและใช้ประโยชน์ในการวินิจฉัยโรคได้ แต่เรื่องของพลังงานในร่างกายยังมีมากกว่านั้นครับ. การแพทย์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ชี่กง เรกิ ostheopathy ฝังเข็ม เป็นต้น ซึ่งทำการเติมพลังงานเข้าไปในร่างกาย หรือทำการจัดสรรพลังงานในร่างกายให้หมุนเวียนได้ดี

Information หรือข้อมูลข่าวสารในตัวของเรา. อันนี้จะฟังดูแปลกและไม่ค่อยคุ้นเคย แต่เรามักจะเคยเจอกันอยู่เรื่อยๆครับ

        ยกตัวอย่าง
ในขณะที่คุณผู้อ่านกำลังอ่านบทความนี้อยู่ อารมณ์สงบคงที่ดี ทันใดนั้นก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด. คุณหงุดหงิดนิดหน่อยกับการถูกขัดจังหวะในระหว่างการอ่าน. แต่เมื่อรับโทรศัพท์เสียงในสายโทรศัพท์กลับแจ้งมาว่าคนที่คุณรักที่สุดในชีวิตเกิดประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงกระทันหันเมื่อ 5 นาทีนี้เอง. แน่นอนครับ คุณยังนั่งอยู่ที่เดิม ถือหนังสือเล่มเดิม ต่อให้คุณยืนอยู่บนเครื่องชั่งน้ำหนัก น้ำหนักของคุณก็ยังเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ตอนนี้คุณรู้สึกไม่เหมือนเดิมแล้ว. มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นในตัวของคุณ อาทิ มึนงง ตกใจ หัวใจของคุณเต้นเร็ว คุณหายใจถี่ขึ้น.
ข้อมูลข่าวสารที่คุณได้รับสามารถเปลี่ยนความรู้สึกหงุดหงิดถูกขัดจังหวะ ให้กลายเป็นความตกใจ รวมถึงทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของร่างกายได้.

นอกจากนี้ข้อมูลข่าวสารอีกหลายๆแบบที่ไม่ได้ผ่านทางหูก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในตัวของคุณได้ รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่ทำให้คุณเห็นโลกไม่เป็นไปตามที่เป็นจริง. บางคนรู้สึกไม่ดีเวลาที่ต้องไปยืนพูดต่อหน้าห้อง ใจสั่น เหงื่อออก. อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ถ้าเราบังเอิญยืนอยู่ต่อหน้าสิงโตที่หลุดออกมาจากกรงในสวนสัตว์. สิงโตจะทำร้าย จะกินเราไหมนี่. แต่หน้าห้องที่เรายืนอยู่ไม่มีสิงโตจริงๆนี่ครับ แต่ความรู้สึกกลับคล้ายกัน แสดงว่ามีข้อมูลบางอย่างในตัวเรา ที่ชวนให้เรารู้สึกผิดไปจากความเป็นจริง.
บางคนทนเห็นรูปงูที่อยู่ในจอโทรทัศน์ไม่ได้ มันช่างน่ากลัว น่าขยะแขยง. อย่าว่าแต่เห็นเลย บางทีแค่มีคนพูดคำว่างูก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว

ข้อมูลข่าวสารที่รับรู้ผิดจากความเป็นจริง และข้อมูลข่าวสารที่กระตุ้นเราให้เกิดความรู้สึกเกินพอดีนี่แหละสามารถทำให้ภูมิต้านทาน ระบบการทำงานของร่างกายของเรารวนได้ และนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ. การปรับ Information ในตัวเราให้เห็นอย่างที่เป็นจริงนี่เองจะช่วยทำให้ร่างกายกลับมาทำงานตามปกติและรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ให้ดีขึ้น

การแพทย์ที่มีผลต่อในระดับ information ได้แก่ โฮมีโอพาธีย์, Bach flower remedies, ศาสนา, spiritual healing

ทุกระดับของ structure, molecule, energy, information มีความเชื่อมโยงถึงกันหมด เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในระดับใดก็ตาม สุดท้ายทุกระดับจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปหมด.


        เมื่อได้รับข่าวร้าย เกิดความกังวล สุดท้ายก็ทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ ส่องกล้องดูก็เห็นแผล. เมื่อถูกรถชน เกิดความบาดเจ็บทางกาย สุดท้ายก็กินไม่ได้ ขาดสารอาหาร หงุดหงิด เบื่อหน่าย ท้อแท้ได้. ไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วย structure ก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อระดับ information ได้ และในทางกลับกัน ปัญหาที่เริ่มต้นจาก information ก็ทำให้เกิดปัญหาในระดับ structure ได้ในที่สุด

การรักษาคน หากรักษาในส่วนที่ปัญหาต้นตอนั้นอยู่ จะทำให้เห็นผลได้เร็วที่สุด. และการใช้การแพทย์หลายๆศาสตร์เข้ามาผสมกัน ให้การไปในทิศทางเดียวกันก็จะทำให้การรักษาไปเร็วขึ้น


โฮมีโอพาธีย์ สามารถนำไปใช้ร่วมกับศาสตร์อื่นได้ แต่ การรักษาแบบโฮมีโอพาธีย์ไม่ได้เน้นให้อาการหายไปจากสายตาเพียงอย่างเดียวครับ โฮมีโอพาธีย์ยังพิจารณาถึงลำดับของการหายของโรคต่างๆในร่างกายด้วย การใช้ร่วมกับการแพทย์ชนิดอื่นๆจึงต้องเป็นไปในทิศทางของลำดับการหายที่ถูกต้องด้วย


.ติดตามต่อได้จากหนังสือ Health Today ครับ รอหนังสือออกแล้วผมค่อยนำมาลงต่อ

29 มิถุนายน 2557

ไม่มีความคิดเห็น: